เตือน! โรคถุงลมโป่งพอง เกิดจากอะไร? โรคที่ใคร ๆ ไม่ควรมองข้าม

โรคถุงลมโป่งพอง เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่ค่อนข้างพบได้บ่อยอยู่เหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคนี้กันให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้รู้ถึงความเป็นมา วิธีการรักษา รวมถึงวิธีการป้องกันเกี่ยวกับโรคนี้ให้ทุกคนได้รู้กัน สำหรับใครที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับโรคนี้ หรือยังไม่เคยรู้จักกับโรคนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับ โรคถุงลมโป่งพอง ไปพร้อมกันนะคะ

สาเหตุการเป็นโรคถุงลมโป่งพองเกิดจากอะไร?

หลายคนก็คงอาจจะไม่ได้รู้ถึงสาเหตุกันแน่ชัดใช่ไหมคะว่า การที่เราจะป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และเพราะอะไรที่ทำให้เราป่วยเป็นโรคนี้ได้ มาดูกันเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคผิวเผือก (Albinism) โรคถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่อาจเกิดได้กับเด็กแรกเกิด

1. เกิดจากการสูบบุหรี่

สำหรับใครที่มีพฤติกรรมชอบสูบบุหรี่อยู่แล้ว นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายในเรื่องต่าง ๆ แล้วนั้น การสูบบุหรี่ก็ค่อนข้างเสี่ยงที่จะทำให้เราป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองได้เหมือนกัน ดังนั้นใครที่ไม่อยากป่วยเป็นโรคนี้เราอาจจะต้องระมัดระวังกันให้มากขึ้นนะคะ

2. เกิดจากมลพิษในอากาศ

สิ่งที่จะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ต่อมาเลย คือเกิดจากมลพิษในอากาศ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอากาศที่ไม่ดี อาทิเช่น ควันการเผาไหม้ รวมถึงไอเสียรถยนต์ เป็นต้น

3. เกิดจากควันพิษในสารเคมี

การที่เราอยู่หรือสัมผัสกับควันพิษของสารเคมีเป็นเวลานาน ๆ สิ่งนี้ค่อนข้างที่จะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคถุงลมโป่งพองได้เหมือนกัน ทางที่ดีเราอาจจะต้องใส่หน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการอยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้จะดีกว่านะคะ

4. เกิดจากการขาดการโปรตีนชนิดหนึ่ง

ซึ่งสิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาตามพันธุกรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายของเราขาดโปรตีนชนิดหนึ่งไป และเมื่อไหร่ที่ร่างกายของเราขาดสารตัวนี้ไป ผลที่ตามมาก็จะทำให้ถุงลมที่ปอดของเราถูกทำลาย จนป่วยเป็นโรคนี้ขึ้นมา แต่สาเหตุในลักษณะแบบนี้ค่อนข้างที่จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แคลเซียมแม่ท้อง สารอาหารที่ร่างกายคุณแม่ผลิตเองไม่ได้

อาการโรคถุงลมโป่งพองมีลักษณะอย่างไร?

ใครที่กำลังสังเกตตัวเอง หรืออยากรู้ว่าอาการที่เรากำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ เสี่ยงที่จะเป็นโรคถุงลมโป่งพองอยู่หรือเปล่า เรามาเช็กอาการเกี่ยวกับโรคนี้ไปพร้อมกันเลยนะคะ

1. หัวใจเต้นเร็ว

เมื่อไหร่ที่เราเริ่มรู้สึกว่าหัวใจของเราเริ่มเต้นเร็วผิดปกติ จากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราว่า เราเสี่ยงที่จะเป็นโรคถุงลมโป่งพองได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานจนเกินไป ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที

2. มีอาการภาวะซึมเศร้า

การที่เรามีอาการซึมเศร้า หรืออยู่ ๆ ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้รู้ถึงสาเหตุกันแน่ชัด สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งอาการของโรคถุงลมโป่งพองเหมือนกันนะคะ

3. น้ำหนักลดลง

หากอยู่ ๆ เรามีน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็กินอาหารทุกอย่างตามปกติ โดยที่เราไม่ได้ลดน้ำหนักอะไรเลย สิ่งนี้ก็เป็นอาการของโรคนี้เช่นเดียวกัน หากใครที่กำลังมีอาการอยู่ในตอนนี้ ควรรีบไปทำการรักษาโดยทันทีนะคะ

4. รู้สึกเหนื่อย

ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม หากเรารู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ หรือบางคนก็อาจจะเหนื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะฉะนั้นการที่เราเป็นแบบนี้ สิ่งที่กำลังบอกเราก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ขึ้นมานั่นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เครียดลงกระเพาะ อาการเป็นอย่างไร รับมือด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

วิธีการป้องกันโรคถุงลมโป่งพองทำอย่างไรดี?

สำหรับใครที่ป่วยเป็นโรคนี้ หรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ แต่เราก็อยากที่จะรู้ว่าเราควรมีวิธีการรับมือ หรือวิธีการรักษาเมื่อป่วยเป็นโรคนี้กันอย่างไรบ้าง มารับมือไปพร้อมกันเลยนะคะ

1. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยคือ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงเราอาจจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่สูบบุหรี่ตามไปด้วย เพราะเมื่อไหร่เราหันกลับมาดูแลตัวเอง และอยู่ในสถานที่ที่ปลอดโปร่ง สิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้ปอดของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงตามไปด้วยเลยล่ะค่ะ

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การที่เราออกกำลังกายในทุก ๆ วัน สิ่งนี้จะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรง มีระบบเผาผลาญที่ดีต่อร่างกาย แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้เราป่วยเป็นโรคที่ร้ายแรงอีกด้วยนะคะ หากใครที่ไม่อยากป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองแล้วล่ะก็ อย่าลืมใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกายนะคะ

3. หลีกเลี่ยงอากาศที่เป็นมลพิษ

สิ่งนี้อาจจะเป็นอะไรที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้สักเท่าไหร่ ด้วยการใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เราต้องมาพบเจอกับควัน หรือมลพิษทางอากาศในเรื่องต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเราก็อาจจะต้องป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัย หรือพยายามอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท หรือสถานที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง เพื่อที่เราจะได้ไม่ป่วยเป็นต่อการเป็นโรคนี้ตามไปด้วย

4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย

สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามอีกอย่างเลยคือ เราไม่ควรที่จะใกล้ชิด หรือไปสัมผัสกับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ หรือปอดบวม เพราะเมื่อไหร่ที่เราไปเข้าใกล้ หรือไปใกล้ชิดกับเขา ผลที่ตามมาก็อาจจะทำให้เราป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายขึ้นเลย หากจะให้ดีกว่านั้นเราก็อาจจะทำการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่หรือโรคอื่น ๆ ตามไปด้วยก็ได้เช่นกัน เพราะวิธีนี้ค่อนข้างที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เราป่วยเป็นโรคนี้ได้นะคะ

5. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

นอกเหนือจากวิธีการอื่น ๆ แล้วนั้น การที่เราเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ เต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญต่าง ๆ สิ่งนี้ก็เป็นอะไรที่จะช่วยป้องกันการป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ให้กับเราได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็อาจจะรวมถึงการป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองด้วยนะคะ และหากจะให้ดีไปกว่านั้นคุณแม่ก็อาจจะต้องเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้รับคุณค่าทางสารอาหารได้อย่างเต็มเปี่ยม และมาสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ตามไปด้วย

หลังจากที่เราได้มาทำความเข้าใจกับโรคถุงลมโป่งพองนั้น ต้องบอกเลยนะคะว่าโรคนี้ค่อนข้างเป็นอะไรที่น่ากลัวอยู่เหมือนกัน หากเราไม่รีบทำการรักษา หรือรักษาได้ไม่ถูกวิธี สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เรากลายเป็นโรคร้าย หรือมีโรคอื่นเข้ามาแทรกซ้อนได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการรักษาสุขภาพเป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้ามมาก ๆ หากใครที่อยากมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรคตับแข็ง เกิดจากอะไร? หนึ่งในโรคที่อันตรายแก่ชีวิต
ตากุ้งยิง เกิดจากอะไร ลูกเป็นตากุ้งยิงบรรเทาอาการอย่างไรได้บ้าง?
ต้อลม อันตรายมากแค่ไหน รักษาให้หายขาดได้หรือไม่?
ที่มา : 1, 2